ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

PHP กับการกำหนดตัวแปร และชนิดของข้อมูล

PHP กับการกำหนดตัวแปร และชนิดของข้อมูล

  • ทำไมต้องมีตัวแปร ให้วุ่นวาย?
    : เพราะมีค่าบางค่าที่ไม่แน่นอน เป็นค่าที่ไม่ตายตัวจะแสดงผลตามที่ผู้ใช้เลือก หรือป้อนเข้ามาเช่นหน้าเว็บแสดงข้อมูลบุคคล เขียนหน้าเดียวแต่จะแสดงข้อมูลของหลายๆคนได้ ด้วยการเลือกแสดงผลจากตัวแปรที่ส่งมาที่หน้าเว็บในแต่ละครั้ง
  • ตัวอย่างการใช้ตัวแปร จะใช้ในโอกาสใดบ้าง
    :  แสดงข้อมูลบุคคลตามที่เลือก เช่นดูข้อมูลนาย A, B, C เป็นต้น การใช้เก็บค่าที่ต้องการแสดงผลออกมาก่อนโดยมีการตรวจสอบเงื่อนไขว่าควรแสดง ข้อมูลไหน แล้วสั่งแสดงผลทีเดียวไม่ต้องสั่งแสดงผลทุกครั้งที่ตรวจสอบ
  • ตั้งชื่อตัวแปรอย่างไรให้มาดูโค๊ดทีหลังแล้วเข้าใจง่าย
    : ตั้งชื่อให้สื่อความหมายและไม่ยาวเกินไป อาจจะใช้ตัวย่อในการตั้งชื่อ เช่น ตัวแปรที่เก็บชื่อของนักเรียนก็ใช้ $student ถ้าจะใช้คำย่อเช่นนักเรียนชาย ก็ใช้ว่า $stdMan, นักเรียนหญิง $stdWoman หรือ $std_man, $std_woman ก็ได้แล้วแต่ชอบ หรือจะใส่คำเต็มๆไปไม่ย่อก็แล้วแต่สะดวกครับ
  • การแสดงผลค่าที่เก็บไว้ในตัวแปร
    : PHP มีคำสั่งที่ใช้แสดงผลอยู่หลายคำสั่งครับ แต่นิยมใช้กันก็คือ echo เช่น echo “สวัสดีครับ”;
    $name = “Songchai”;
    echo “สวัสดีครับ คุณ “. $name;
  • เปรียบเทียบวิธีการแสดงผล แบบใช้เครื่องหมายจุด(.) และ จุลภาค(,)
    การแสดงผลนั้น สามารถใช้วิธีการแสดงข้อความได้ 2 แบบคือแบบใช้จุดเชื่อมต่อข้อความ และใช้คอมม่าในการเชื่อมคำสั่งแสดงผล
    1. echo “สวัสดีครับ คุณ “. $name;
    1. echo “สวัสดีครับ คุณ “, $name;

    ในหลักการเพิ่มความเร็วให้กับโค๊ดที่เขียนนั้น ส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้แบบที่ 2 แต่ก็มีหลายกรณีที่เราจะต้องรวมตัวแปรก่อนแล้วค่อยแสดงผลทีหลัง ซึ่งอาจจะต้องใช้ผสมกันไปตามความเหมาะสม
    เช่น 
$name = “Songchai “; $surname = “Saetern”; $fullname = $name.” “.$surname
//ไม่สามารถใช้ $fullname = $name, ” “, $surname ได้เพราะใช้ได้เฉพาะตอนแสดงผลเท่านั้น
echo “สวัสดีครับ คุณ “, $fullname;


          ตัวอย่างการใช้งานเพิ่มเติม >>


ความสำคัญของการใช้งานตัวแปร ที่มองเห็นภาพชัดเจนที่สุดคือ เมื่อเราจะต้องแสดงชื่อ เดียวกันในหลายๆ ตำแหน่ง แล้วถ้าโค๊ดในหน้านั้นมีเป็นร้อยเป็นพันบรรทัด  ลองคิดดูว่าจะต้องค้นหา และแทนที่กี่ครั้ง ถ้ามี 20 จุดก็ต้องค้นหา 20 ครั้ง ดังนั้นถ้าเก็บชื่อไว้ในตัวแปร แล้วก็แก้ไขชื่อที่ตัวแปรแค่ที่เดียว อีก 20 จุดที่เหลือก็จะเปลี่ยนค่าไปตามตัวแปรที่แก้ไข 


เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดตัวแปร และชนิดข้อมูล :: http://www.thainextstep.com



PHP CI MANIA PHP Code Generator 
โปรแกรมช่วยสร้างโค้ด ลดเวลาการเขียนโปรแกรม

สนใจสั่งซื้อเพียง 4,500 บาท
http://fastcoding.phpcodemania.com/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจกฟรี!! ระบบต่างๆที่พัฒนาด้วย PHP สำหรับนำไปใช้ในงานต่างๆ

       สำหรับหลายท่านที่ขอโค้ดเข้ามาทาง Inbox ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือถามถึงระบบต่างๆหลังไมค์มานั้น ส่วนใหญ่ก็มีแจกอยู่แล้วในเว็บบอร์ด ThaiCreate.Com นะครับ และด้านล่างนี้ก็เป็นระบบต่างๆที่แจกให้นำไปลองใช้ลองศึกษากันครับ

สอนเขียน PHP แสดงการจองห้องประชุมแบบไฮไลท์ตามช่วงเวลา (แบบเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL)

ตัวอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้จากการจองในฐานข้อมูล ตาราง tb_room สร้างตารางรายชื่อห้องประชุม สำหรับ id นั้นเป็น Primarykey จะกำหนดให้สร้างอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราเพิ่มชื่อห้องประชุมใหม่ -- -- Database: `tobedev_example` -- -- -------------------------------------------------------- -- -- Table structure for table `tb_room` -- CREATE TABLE IF NOT EXISTS `tb_room` (   `id` int(11) NOT NULL,   `name` varchar(30) NOT NULL ) ENGINE=InnoDB AUTO_INCREMENT=6 DEFAULT CHARSET=utf8; -- -- Dumping data for table `tb_room` -- INSERT INTO `tb_room` (`id`, `name`) VALUES (1, 'ห้องประชุม 1'), (2, 'ห้องประชุม 2'), (3, 'ห้องประชุม 3'), (4, 'ห้องประชุม 4'), (5, 'ห้องประชุม 5'); -- -- Indexes for dumped tables -- -- -- Indexes for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   ADD PRIMARY KEY (`id`); -- -- AUTO_INCREMENT for dumped tables -- -- -- AUTO_INCREMENT for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   MODIFY `i...

การดึงข้อมูล MySQL มาแสดงในปฏิทิน Fullcalendar ด้วย PHP

หลักการทำงาน เรียกข้อมูลจากตาราง tb_event ด้วยฟังก์ชั่นของ MySQLi ข้อมูลจากฐานข้อมูลจะถูกวนลูปเก็บไว้ใน $data และจะถูกส่งไปที่ Fullcalendar ด้วยการแปลงข้อมูลจาก PHP ให้อยู่ในรูปแบบ JSON อาร์เรย์ด้วยฟังก์ชั่น json_encode() PHP Code <?php //Database $data = array(); $link = mysqli_connect("127.0.0.1", "tobedev", "1234", "tobedev_example"); mysqli_set_charset($link, 'utf8'); if (!$link) {     echo "Error: Unable to connect to MySQL." . PHP_EOL;     echo "Debugging errno: " . mysqli_connect_errno() . PHP_EOL;     echo "Debugging error: " . mysqli_connect_error() . PHP_EOL;     exit; } $query = "SELECT * FROM tb_event"; if ($result = $link->query($query)) {     /* fetch object array */     while ($obj = $result->fetch_object()) {        $data[] = array(                 ...