ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปรียบเทียบความเร็ว function ของ jQuery ระหว่าง html() empty() และ remove()

ช่วงนี้กำลังสนใจเรื่อง Performance ของโค๊ดที่เขียนขึ้นมา เลยนึกสงสัยว่าฟังก์ชั่น jQuery ทั้งสามฟังก์ชั่นนี้ จะเลือกใช้แบบไหนดี html(''), remove(), empty()

โค๊ดตัวอย่าง
<div id="main">
    <div id="list">
        <ul>
            <li>Coffee</li>
            <li>Tea</li>
            <li>Milk</li>
        </ul>
    </div>
</div>


ผลลัพธ์ที่ผมต้องการก็คือ ต้องการลบข้อมูล div ที่ id="main" ให้เป็นค่าว่าง
ทางเลือกก็คือ

1) $('#main').html('');
2) $('#main').empty('');


ซึ่งจากการค้นหาข้อมูลดูแล้ว ก็ได้ข้อสรุปว่า

$(element).empty(); 

ทำงานเร็วที่สุดครับ

แต่ถ้าเรากำหนด id ให้กับเป้าหมายด้วยแล้วการใช้ remove() กับเป้าหมายไปเลยก็จะเร็วกว่าครับ

3) $('#list').remove('');

แต่ถ้า ไม่ได้กำหนด id ให้กับเป้าหมายไว้ เราก็ต้องอ้างจาก main แล้วค้นหาอีเลเมนต์ทั้งหมด

$('#main').children().remove()

แบบนี้จะช้านะครับ คงจะเพราะว่าเสียเวลากับการค้นหา children




อ้างอิง
Jquery Difference .html("") vs .empty()
http://stackoverflow.com/questions/17543711/jquery-difference-html-vs-empty

Jquery empty() vs children().remove()
https://jsperf.com/jquery-empty-vs-children-remove
http://jsperf.com/jquery-empty-vs-children-remove/8

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจกฟรี!! ระบบต่างๆที่พัฒนาด้วย PHP สำหรับนำไปใช้ในงานต่างๆ

       สำหรับหลายท่านที่ขอโค้ดเข้ามาทาง Inbox ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือถามถึงระบบต่างๆหลังไมค์มานั้น ส่วนใหญ่ก็มีแจกอยู่แล้วในเว็บบอร์ด ThaiCreate.Com นะครับ และด้านล่างนี้ก็เป็นระบบต่างๆที่แจกให้นำไปลองใช้ลองศึกษากันครับ

สอนเขียน PHP แสดงการจองห้องประชุมแบบไฮไลท์ตามช่วงเวลา (แบบเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL)

ตัวอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้จากการจองในฐานข้อมูล ตาราง tb_room สร้างตารางรายชื่อห้องประชุม สำหรับ id นั้นเป็น Primarykey จะกำหนดให้สร้างอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราเพิ่มชื่อห้องประชุมใหม่ -- -- Database: `tobedev_example` -- -- -------------------------------------------------------- -- -- Table structure for table `tb_room` -- CREATE TABLE IF NOT EXISTS `tb_room` (   `id` int(11) NOT NULL,   `name` varchar(30) NOT NULL ) ENGINE=InnoDB AUTO_INCREMENT=6 DEFAULT CHARSET=utf8; -- -- Dumping data for table `tb_room` -- INSERT INTO `tb_room` (`id`, `name`) VALUES (1, 'ห้องประชุม 1'), (2, 'ห้องประชุม 2'), (3, 'ห้องประชุม 3'), (4, 'ห้องประชุม 4'), (5, 'ห้องประชุม 5'); -- -- Indexes for dumped tables -- -- -- Indexes for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   ADD PRIMARY KEY (`id`); -- -- AUTO_INCREMENT for dumped tables -- -- -- AUTO_INCREMENT for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   MODIFY `i...

การดึงข้อมูล MySQL มาแสดงในปฏิทิน Fullcalendar ด้วย PHP

หลักการทำงาน เรียกข้อมูลจากตาราง tb_event ด้วยฟังก์ชั่นของ MySQLi ข้อมูลจากฐานข้อมูลจะถูกวนลูปเก็บไว้ใน $data และจะถูกส่งไปที่ Fullcalendar ด้วยการแปลงข้อมูลจาก PHP ให้อยู่ในรูปแบบ JSON อาร์เรย์ด้วยฟังก์ชั่น json_encode() PHP Code <?php //Database $data = array(); $link = mysqli_connect("127.0.0.1", "tobedev", "1234", "tobedev_example"); mysqli_set_charset($link, 'utf8'); if (!$link) {     echo "Error: Unable to connect to MySQL." . PHP_EOL;     echo "Debugging errno: " . mysqli_connect_errno() . PHP_EOL;     echo "Debugging error: " . mysqli_connect_error() . PHP_EOL;     exit; } $query = "SELECT * FROM tb_event"; if ($result = $link->query($query)) {     /* fetch object array */     while ($obj = $result->fetch_object()) {        $data[] = array(                 ...