ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โค๊ดตัวอย่างการทำ Autocomplete แบบลดจำนวนการคิวรี่ MySQL


รวมภาพประกอบบทความจากบทความที่แล้ว หลักการเขียน PHP Autocomplete ด้วย jQuery ในรูปแบบ JSON วันนี้จะมานำเสนอวิธีการเขียนโค๊ด Autocomplete ด้วย jQuery เป็นตัวอย่างสำหรับการทำงานด้วยแนวคิดที่ว่านี้ แล้วลองประยุกต์กันดูนะครับ

ในบทความนี้จะพูดถึงอะไรบ้าง ก็จะมีการเขียนโค๊ด PHP  เพื่อเรียกข้อมูลจากฐานข้อมูล MySQL แล้วเขียนเป็นไฟล์ JavaScript เพื่อเรียกใช้ด้วย Autocomplete ด้วย jQuery อีกที

จากซอร์สโค๊ดจะเห็นว่า PHP จะสั่งคิวรี่เพียงครั้งเดียว และเมื่อพิมพ์รายชื่อ จะสามารถแสดง Autocomplete ขึ้นมาให้เลือกได้โดยไม่ต้องส่งค่าไปมาด้วย Ajax อีก ซึ่งประหยัดทั้งแบนวิธด์ และการทำงานของ MySQL ที่ใช้ CPU ที่เกินจำเป็นได้อีกด้วย แต่ถ้าจะให้ดีก็ไม่ต้องคิวรี่ครับ (ดึงไฟล์ที่ได้สร้างเป็น *.js ไว้แล้วมาใช้เลยจะดีที่สุด ^_^ )


1. ข้อมูลสมาชิกในฐานข้อมูล MySQL 

ตัวอย่างฐานข้อมูลสมาชิก ที่เก็บใน MySQL

    ข้อมูลทดสอบอยู่ในไฟล์ tb_user.sql

2. หน้าค้นหา แบบ Autocomplete
    

หน้านี้จะอยู่ที่ไฟล์ autocomplete-optimize.php


ซอร์สโค๊ดที่ใช้ทำสอบจะดึงข้อมูลจากฐานขอมูลมาสร้างตัวแปรจาวาสคริปต์โดยตรง ยังไม่มีส่วนของการนำข้อมูลทั้งหมด มาสร้างเป็นไฟล์ .js เพื่อเรียกใช้ในหน้าที่ใช้ Autocomplete

ถ้าต้องการใช้งานจริง ก็ให้นำส่วนที่ดึงข้อมูลที่ต้องการทั้งหมดไปสร้างเป็นไฟล์ .js เมื่อมีการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลสมาชิก ซึ่งใช้คำสั่งเขียนไฟล์ Text ของ PHP ธรรมดๆนี่เอง ^^



ดูวิธีดาวน์โหลดซอร์สโค๊ดที่นี่
ดาวน์โหลดที่นี่




ข้อมูลเพิ่มเติม
jQuery UI Autocomplete
---------------------------------------------------------------------------------------

<!doctype html>
<html lang="en">
<head>
  <meta charset="utf-8" />
  <title>jQuery UI Autocomplete - Custom data and display</title>
  
  <link rel="stylesheet" href="css/jquery-ui-1.10.2.custom.css" />
  <script src="js/jquery-1.9.1.js"></script>
  <script src="js/jquery-ui-1.10.2.custom.min.js"></script>
  <style>
  #project-label {
    display: block;
    font-weight: bold;
    margin-bottom: 1em;
  }
  #project-icon {
    float: left;
    height: 32px;
    width: 32px;
  }
  #project-description {
    margin: 0;
    padding: 0;
  }
  </style>
</head>
<body>
    <?php
        
//-- ส่วนของการเชื่อมต่อฐานข้อมูล
        
$host "localhost";
        
$user "sunzandesign";
        
$pass "abcd1234";
        
$dbname "sunzan-design.com";
         
        
$conn mysql_connect($host,$user,$pass) or die( "ไม่สามารถติดต่อฐานข้อมูลได้ "mysql_error());
        
mysql_select_db($dbname) or die("เชื่อมต่อฐานข้อมูลไม่ได้ "mysql_error());
        
mysql_query('SET NAMES UTF8');
         
        
//แสดงข้อมูลจากตารางสมาชิก
        
$comma '';
        
$allEmp '';
        
$sql="SELECT user_code,user_fullname  FROM tb_user ORDER BY user_fullname ASC";
        
$result=mysql_query($sql) or die(mysql_error()." [$sql]");
        while (
$row mysql_fetch_array($result)) {
            
$allEmp .= $comma.'{value: "'.$row['user_code'].'",label: "'.$row['user_fullname'].'"}';
            if(
$comma===''$comma ',';
        }
        
//การใช้งานจริง ส่วนนี้จะถูกเขียนเป็นไฟล์ .js เพื่อเรียกใช้ใน javascript
        
$allEmp '['$allEmp ']';
        
//--
    
?>
    <div id="project-label">ค้นหารายชื่อสมาชิก</div>
    <input id="user_fullname" value=""/>
    <input type="hidden" id="project-id" />
    <p id="project-description"></p>

    <!-- ส่วนนี้คือไฟล์ที่สร้างไว้เรียบร้อยแล้ว ในตัวอย่างจะเป็นไฟล์เปล่า -->
    <script type="text/javascript" src="themes/js/allEmpData.js"></script>
    <script type="text/javascript">
        $(function() { 

        //ถ้าใช้งานจริง ส่วนนี้จะถูกเขียนขึ้น เป็นไฟล์ .js เมื่อมีการเพิ่ม/แก้ไข ข้อมูลสมาชิก 
        var autoCompleteData = <?php echo $allEmp?>;
        //--

        if(!autoCompleteData) var autoCompleteData = new Array();
        $( "#user_fullname" ).autocomplete({
          minLength: 0,
          source: autoCompleteData,
          focus: function( event, ui ) {
            $( "#user_fullname" ).val( ui.item.label );
            return false;
          },
          select: function( event, ui ) {
            $( "#user_fullname" ).val( ui.item.label );
            $( "#project-id" ).val( ui.item.value );
            return false;
          }
        })
        .data( "ui-autocomplete" )._renderItem = function( ul, item ) {
          return $( "<li>" )
            .append( "<a>" + item.label + "</a>" )
            .appendTo( ul );
        };
        });
    </script>
</body>
</html>




PHP CI MANIA PHP Code Generator 
โปรแกรมช่วยสร้างโค้ด ลดเวลาการเขียนโปรแกรม

สนใจสั่งซื้อเพียง 4,500 บาท
http://fastcoding.phpcodemania.com/



สนับสนุนค่ากาแฟผู้เขียนได้ที่


PayPal

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจกฟรี!! ระบบต่างๆที่พัฒนาด้วย PHP สำหรับนำไปใช้ในงานต่างๆ

       สำหรับหลายท่านที่ขอโค้ดเข้ามาทาง Inbox ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือถามถึงระบบต่างๆหลังไมค์มานั้น ส่วนใหญ่ก็มีแจกอยู่แล้วในเว็บบอร์ด ThaiCreate.Com นะครับ และด้านล่างนี้ก็เป็นระบบต่างๆที่แจกให้นำไปลองใช้ลองศึกษากันครับ

สอนเขียน PHP แสดงการจองห้องประชุมแบบไฮไลท์ตามช่วงเวลา (แบบเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL)

ตัวอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้จากการจองในฐานข้อมูล ตาราง tb_room สร้างตารางรายชื่อห้องประชุม สำหรับ id นั้นเป็น Primarykey จะกำหนดให้สร้างอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราเพิ่มชื่อห้องประชุมใหม่ -- -- Database: `tobedev_example` -- -- -------------------------------------------------------- -- -- Table structure for table `tb_room` -- CREATE TABLE IF NOT EXISTS `tb_room` (   `id` int(11) NOT NULL,   `name` varchar(30) NOT NULL ) ENGINE=InnoDB AUTO_INCREMENT=6 DEFAULT CHARSET=utf8; -- -- Dumping data for table `tb_room` -- INSERT INTO `tb_room` (`id`, `name`) VALUES (1, 'ห้องประชุม 1'), (2, 'ห้องประชุม 2'), (3, 'ห้องประชุม 3'), (4, 'ห้องประชุม 4'), (5, 'ห้องประชุม 5'); -- -- Indexes for dumped tables -- -- -- Indexes for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   ADD PRIMARY KEY (`id`); -- -- AUTO_INCREMENT for dumped tables -- -- -- AUTO_INCREMENT for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   MODIFY `i...

การดึงข้อมูล MySQL มาแสดงในปฏิทิน Fullcalendar ด้วย PHP

หลักการทำงาน เรียกข้อมูลจากตาราง tb_event ด้วยฟังก์ชั่นของ MySQLi ข้อมูลจากฐานข้อมูลจะถูกวนลูปเก็บไว้ใน $data และจะถูกส่งไปที่ Fullcalendar ด้วยการแปลงข้อมูลจาก PHP ให้อยู่ในรูปแบบ JSON อาร์เรย์ด้วยฟังก์ชั่น json_encode() PHP Code <?php //Database $data = array(); $link = mysqli_connect("127.0.0.1", "tobedev", "1234", "tobedev_example"); mysqli_set_charset($link, 'utf8'); if (!$link) {     echo "Error: Unable to connect to MySQL." . PHP_EOL;     echo "Debugging errno: " . mysqli_connect_errno() . PHP_EOL;     echo "Debugging error: " . mysqli_connect_error() . PHP_EOL;     exit; } $query = "SELECT * FROM tb_event"; if ($result = $link->query($query)) {     /* fetch object array */     while ($obj = $result->fetch_object()) {        $data[] = array(                 ...