การแปลงค่าวันที่เพื่อนำไปใช้คำนวณระยะห่าง ระหว่างวันที่นั้นจำเป็นจะต้องจัดรูปแบบใหม่ และเมื่อคำนวณเสร็จแล้ว ก็อาจจะต้องนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อแสดงค่าวันที่ที่คำนวณแล้ว
โดยพื้นฐานการเปลี่ยนวันที่ date เป็น time และจาก time เป็น date นั้น ใช้หลักการง่ายๆ ดังนี้
หา Timestamp จาก Datetime ในรูปแบบ yyyy-mm-dd H:i:s
หาวันที่ Datetime จาก Timestamp
<?php
$timestamp = "1369104113";
echo date("Y-m-d H:i:s", $timestamp);
?>
ถ้าหากได้ใช้คำสั่งข้างบนนี้บ่อยๆ เราก็จำเป็นต้องสร้างฟังก์ชั่นไว้ เพื่อสะดวกในการเรียกใช้งาน
PHP CI MANIA - PHP Code Generator
โดยพื้นฐานการเปลี่ยนวันที่ date เป็น time และจาก time เป็น date นั้น ใช้หลักการง่ายๆ ดังนี้
หา Timestamp จาก Datetime ในรูปแบบ yyyy-mm-dd H:i:s
<?php
$datetime = "2013-05-21 02:41:53";
$exp = explode(" ",$datetime);
$t = explode(":",$exp[1]);
$d = explode("-",$exp[0]);
$timestamp = mktime($t[0], $t[1], $t[2], $d[1], $d[2], $d[0]);
$exp = explode(" ",$datetime);
$t = explode(":",$exp[1]);
$d = explode("-",$exp[0]);
$timestamp = mktime($t[0], $t[1], $t[2], $d[1], $d[2], $d[0]);
echo $timestamp;
?>
หาวันที่ Datetime จาก Timestamp
<?php
$timestamp = "1369104113";
echo date("Y-m-d H:i:s", $timestamp);
?>
ถ้าหากได้ใช้คำสั่งข้างบนนี้บ่อยๆ เราก็จำเป็นต้องสร้างฟังก์ชั่นไว้ เพื่อสะดวกในการเรียกใช้งาน
<?php
function dateToTime($datetime){
function dateToTime($datetime){
$exp = explode(" ",$datetime);
$t = explode(":",$exp[1]);
$d = explode("-",$exp[0]);
$timestamp = mktime($t[0], $t[1], $t[2], $d[1], $d[2], $d[0]);
$t = explode(":",$exp[1]);
$d = explode("-",$exp[0]);
$timestamp = mktime($t[0], $t[1], $t[2], $d[1], $d[2], $d[0]);
return $timestamp;
}
function timeToDate($timestamp){
$timestamp date("Y-m-d H:i:s", $timestamp);
return $timestamp;
}
echo dateToTime("2013-05-21 02:41:53");
echo timeToDate("1369104113");
}
function timeToDate($timestamp){
$timestamp date("Y-m-d H:i:s", $timestamp);
return $timestamp;
}
echo dateToTime("2013-05-21 02:41:53");
echo timeToDate("1369104113");
?>
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น