สำหรับบทความนี้จะมาสอนเขียน PHP เพื่อวนลูปทำงานตามที่ต้องการด้วยฟังก์ชั่น foreach(), ฟังก์ชั่น array_walk() และฟังก์ชั่น array_map() ซึ่งตัวอย่างนี้จะทำงานร่วมกับข้อมูลที่เป็นอาร์เรย์
ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ php.net
foreach()
array_walk()
array_map()
ลองมาดูผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นดูกันก่อนจะลองทำแล็ปเล็กๆท้ายบทความนะครับ
สังเกตว่าวิธีการเขียนโค๊ดยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นจะเหมือนกัน
กรณีที่ต้องเขียนแยกไปใช้หลายๆที่อาจจะใช้วิธีเรียกฟังก์ชั่นสำหรับเรียกใช้งานได้หลายหน้าเว็บเพจ
สังเกตว่าจะได้ผลลัพธ์จะได้เหมือนกัน แต่การใช้งาน array_walk() และ array_map() ในกรณีเช่นนี้ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะต้องเรียกใช้งานฟังก์ชั่นเพื่อรับส่งค่าเพิ่มเติม
ตัวอย่างการใช้ array_map() แบบให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
กำหนดให้มีการรับข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจากแบบฟอร์มมีค่าดังนี้
ผลลัพธ์การสร้างคิวรี่สตริงที่ไม่ได้กรองข้อมูลก่อน
สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านว่าจะเลือกใช้ฟังก์ชั่นใด กับการทำงานร่วมกับข้อมูลอาร์เรย์ชุดนั้นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ php.net
foreach()
array_walk()
array_map()
ลองมาดูผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นดูกันก่อนจะลองทำแล็ปเล็กๆท้ายบทความนะครับ
<?php
$data = array('name' => 'Songchai Saetern', 'age' => '29', 'level' => '1');
echo '<b>ข้อมูลในตัวแปร $data</b><pre>', print_r($data, true), '</pre>';
echo "<pre><b>ตัวอย่างการใช้ forech()</b>";
foreach($data as $key => $value) {
echo "<br/>$key : <input type=\"\" name=\"$key\" value=\"$value\" />";
}
echo '</pre>';
echo "<pre><b>ตัวอย่างการใช้ array_walk()</b>";
array_walk($data, function($value, $key){
echo "<br/>$key : <input type=\"\" name=\"$key\" value=\"$value\" />";
});
echo '</pre>';
echo "<pre><b>ตัวอย่างการใช้ array_map()</b>";
function cube($value, $key)
{
echo "<br/>$key : <input type=\"\" name=\"$key\" value=\"$value\" />";
}
$b = array_map("cube", $data, array_keys($data));
?>
สังเกตว่าวิธีการเขียนโค๊ดยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นจะเหมือนกัน
กรณีที่ต้องเขียนแยกไปใช้หลายๆที่อาจจะใช้วิธีเรียกฟังก์ชั่นสำหรับเรียกใช้งานได้หลายหน้าเว็บเพจ
ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ foreach()
function generate_tr($row_array){
$list = '<tr>';
foreach($row_array as $field => $value) {
$list .= "<td class=\"$field\">$value</td>";
}
$list .= '</tr>';
return $list;
}
$tr = '';
$sql = "SELECT * FROM `tb_member` LIMIT 5";
$qry = mysql_query($sql) or die( mysql_error() );
while($row = mysql_fetch_assoc($qry)){
$tr .= generate_tr($row);
}
echo '<h3>ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ foreach()</h3>';
echo '<table border="1">', $tr, '</table>';
ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ array_walk()
function array_walk_td(&$value, $field){
$value = "<td class=\"$field\">$value</td>";
}
$tr = '';
$data = array();
$sql = "SELECT * FROM `tb_member` LIMIT 5";
$qry = mysql_query($sql) or die( mysql_error() );
while($row = mysql_fetch_assoc($qry)){
array_walk($row, "array_walk_td");
$tr .= '<tr>'.implode('', array_values($row)).'</tr>';
}
echo '<h3>ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ array_walk()</h3>';
echo '<table border="1">', $tr, '</table>';
ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ array_map()
function array_map_td($value, $field){
return "<td class=\"$field\">$value</td>";
}
$tr = '';
$sql = "SELECT * FROM `tb_member` LIMIT 5";
$qry = mysql_query($sql) or die( mysql_error() );
while($row = mysql_fetch_assoc($qry)){
$data = array_map("array_map_td", $row, array_keys($row));
$tr .= '<tr>'.implode('', array_values($data)).'</tr>';
}
echo '<h3>ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ array_map()</h3>';
echo '<table border="1">', $tr, '</table>';
สังเกตว่าจะได้ผลลัพธ์จะได้เหมือนกัน แต่การใช้งาน array_walk() และ array_map() ในกรณีเช่นนี้ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะต้องเรียกใช้งานฟังก์ชั่นเพื่อรับส่งค่าเพิ่มเติม
แล้วจะใช้ array_walk() และ array_map() ตอนไหนดี?
- array_walk() ถ้าต้องการวนลูปแสดงค่าในอาร์เรย์เลยโดยไม่ต้องคืนค่ากลับ(return) แบบนี้น่าใช้
- array_map() เหมาะกับการวนลูปเพื่อแก้ไขข้อมูลในอาร์เรย์เพื่อนำไปใช้ต่อ โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ key ของอาร์เรย์ เพราะถ้าต้องการค่าอื่นๆด้วยก็จะต้องส่งเป็นอาร์เรย์ชุดที่สองต่อไป
- นอกเหนือจากนั้นก็ใช้ foreach() ตามปกติ จะสามารถทำงานได้อย่างอิสระ
ตัวอย่างการใช้ array_map() แบบให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
กับการกรองข้อมูลจากแบบฟอร์มเพื่อป้องกัน SQL Injection
กำหนดให้มีการรับข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจากแบบฟอร์มมีค่าดังนี้$_POST['uname'] = "songchai";
$_POST['password'] = "abcd' OR '1'='1";
ผลลัพธ์การสร้างคิวรี่สตริงที่ไม่ได้กรองข้อมูลก่อน
echo '<b>ข้อมูลที่ส่งมาจากแบบฟอร์ม</b><pre>', print_r($_POST, true), '</pre>';
echo "SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = '$_POST[uname]' AND password = '$_POST[password]'";
ข้อมูลที่ส่งมาจากแบบฟอร์มArray ( [uname] => songchai [password] => abcd' OR '1'='1 )SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = 'songchai' AND password = 'abcd' OR '1'='1'
ตัวอย่างการเรียกใช้ foreach() เพื่อกรองข้อมูล SQL Injection
echo '<h3>ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชั่น เพื่อเรียกใช้ foreach()</h3>';
foreach ($_POST as $key => $value) {
$_POST[$key] = mysql_real_escape_string($value);
}
echo '<b>ข้อมูลที่กรองแล้ว</b><pre>', print_r($_POST, true), '</pre>';
echo "SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = '$_POST[uname]' AND password = '$_POST[password]'";
ข้อมูลที่กรองแล้ว
Array ( [uname] => songchai [password] => abcd\' OR \'1\'=\'1 )SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = 'songchai' AND password = 'abcd\' OR \'1\'=\'1'
ตัวอย่างการเรียกใช้ array_map() เพื่อกรองข้อมูล SQL Injection
$_POST = array_map ('mysql_real_escape_string', $_POST);
echo '<b>ข้อมูลที่กรองแล้ว</b><pre>', print_r($_POST, true), '</pre>';
echo "SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = '$_POST[uname]' AND password = '$_POST[password]'";
ข้อมูลที่กรองแล้วArray ( [uname] => songchai [password] => abcd\' OR \'1\'=\'1 )SELECT * FROM `tb_member` WHERE username = 'songchai' AND password = 'abcd\' OR \'1\'=\'1'
สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านว่าจะเลือกใช้ฟังก์ชั่นใด กับการทำงานร่วมกับข้อมูลอาร์เรย์ชุดนั้นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น