ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วันนี้ไม่ได้มาสอน PHP แต่จะลองเขียนเกี่ยวกับเรื่องของ ความสัมพันธ์ของระบบฐานข้อมูล (Database Relationships)

       การสร้างเว็บเพจสำหรับแสดงผลข้อมูลต่างๆ ในภายหลัง หรือเมื่อเวลาที่ผู้ใช้งานต้องการนั้น เราจะต้องเอาไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลก่อน  เขียนเว็บเพจด้วยภาษาที่ทำงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์เช่น PHP เพื่อเรียกรายงานต่างๆออกมาแสดง แต่ก่อนที่เราจะได้เขียนโค้ด PHP เพื่อติดต่อกับ ฐานข้อมูล MySQL หรือฐานข้อมูลใดๆนั้น เราก็จะต้องมีฐานข้อมูลอยู่ก่อนแล้ว สำหรับบทความนี้ จะพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของฐานข้อมูล แบบให้เห็นภาพง่ายๆ(รึเปล่า?) จากรอบกายเรานี่เอง


1. ความสัมพันธ์แบบ หนึ่งต่อหนึ่ง ( One to One)

    ตัวอย่าง : พนักงานหนึ่งคน กำหนดให้รับผิดชอบงานหลัก เพียงงานเดียว (เป็นที่ปรารถณาของพนักงานทุกคนครับ งานหลักชัดเจน งานรองก็อย่ามากเกินไป แต่บางทีผู้บริหารก็มองว่าใช้ไม่คุ้ม)


2. ความสัมพันธ์แบบ หนึ่งต่อกลุ่ม ( One to Many)

    ตัวอย่าง : พนักงานหนึ่งคน กำหนดให้รับผิดชอบงานหลัก หลายงาน (ซุปเปอร์ออฟฟิศแมน ใช้จนคุ้มกันเลยทีเดียว ถ้าน้อยเนื้อต่ำใจ คิดลาออกขึ้นมา คงหาคนมาทำงานแทนกันให้วุ่น)


3. ความสัมพันธ์แบบ กลุ่มต่อกลุ่ม ( Many to Many) 

    ตัวอย่าง : พนักงาน 10 คน กำหนดให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงาน ในส่วนงานต่างๆ (เป็นการเตรียมพร้อมกับสิ่งที่ไม่คาดคิดไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งจะลาออกไปก็ไม่กระทบกับงานส่วนนั้นๆ เพราะคนอื่นๆก็ทำได้)






       คิดว่าตัวอย่างนี้คงจะพอทำให้นึกภาพออก แต่ถ้าไม่ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ตัวผมก็ไม่ได้เข้าใจหลักการสักเท่าไหร่ยิ่งอธิบายมากไปก็อาจจะยิ่งเกิดคำถามตามมามากมาย เอาไว้โอกาสต่อไปจะนำเสนอตัวอย่างการออกแบบฐานข้อมูลให้ได้เห็นภาพกันชัดเจนกว่านี้อีกครั้งครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจกฟรี!! ระบบต่างๆที่พัฒนาด้วย PHP สำหรับนำไปใช้ในงานต่างๆ

       สำหรับหลายท่านที่ขอโค้ดเข้ามาทาง Inbox ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือถามถึงระบบต่างๆหลังไมค์มานั้น ส่วนใหญ่ก็มีแจกอยู่แล้วในเว็บบอร์ด ThaiCreate.Com นะครับ และด้านล่างนี้ก็เป็นระบบต่างๆที่แจกให้นำไปลองใช้ลองศึกษากันครับ

สอนเขียน PHP แสดงการจองห้องประชุมแบบไฮไลท์ตามช่วงเวลา (แบบเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL)

ตัวอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้จากการจองในฐานข้อมูล ตาราง tb_room สร้างตารางรายชื่อห้องประชุม สำหรับ id นั้นเป็น Primarykey จะกำหนดให้สร้างอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราเพิ่มชื่อห้องประชุมใหม่ -- -- Database: `tobedev_example` -- -- -------------------------------------------------------- -- -- Table structure for table `tb_room` -- CREATE TABLE IF NOT EXISTS `tb_room` (   `id` int(11) NOT NULL,   `name` varchar(30) NOT NULL ) ENGINE=InnoDB AUTO_INCREMENT=6 DEFAULT CHARSET=utf8; -- -- Dumping data for table `tb_room` -- INSERT INTO `tb_room` (`id`, `name`) VALUES (1, 'ห้องประชุม 1'), (2, 'ห้องประชุม 2'), (3, 'ห้องประชุม 3'), (4, 'ห้องประชุม 4'), (5, 'ห้องประชุม 5'); -- -- Indexes for dumped tables -- -- -- Indexes for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   ADD PRIMARY KEY (`id`); -- -- AUTO_INCREMENT for dumped tables -- -- -- AUTO_INCREMENT for table `tb_room` -- ALTER TABLE `tb_room`   MODIFY `i...

การดึงข้อมูล MySQL มาแสดงในปฏิทิน Fullcalendar ด้วย PHP

หลักการทำงาน เรียกข้อมูลจากตาราง tb_event ด้วยฟังก์ชั่นของ MySQLi ข้อมูลจากฐานข้อมูลจะถูกวนลูปเก็บไว้ใน $data และจะถูกส่งไปที่ Fullcalendar ด้วยการแปลงข้อมูลจาก PHP ให้อยู่ในรูปแบบ JSON อาร์เรย์ด้วยฟังก์ชั่น json_encode() PHP Code <?php //Database $data = array(); $link = mysqli_connect("127.0.0.1", "tobedev", "1234", "tobedev_example"); mysqli_set_charset($link, 'utf8'); if (!$link) {     echo "Error: Unable to connect to MySQL." . PHP_EOL;     echo "Debugging errno: " . mysqli_connect_errno() . PHP_EOL;     echo "Debugging error: " . mysqli_connect_error() . PHP_EOL;     exit; } $query = "SELECT * FROM tb_event"; if ($result = $link->query($query)) {     /* fetch object array */     while ($obj = $result->fetch_object()) {        $data[] = array(                 ...